ทศชาติชาดก เล่ม.1-10 ( E-book )

เล่ม 1. พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระเตมีย์ทรง

บำเพ็ญเนกขัมมบารมีขั้นสูงสุด คือ ทรงมีพระปณิธานแน่ว

แน่ว่าจะไม่กระทำการใดที่จะทำให้ต้องไปสู่นรกอีก โดย

ทำพระองค์เป็นคนหูหนวก เป็นใบ และเป็นง่อย แล้ว

ออกบวชเพื่อจะได้ไม่ต้องทำบาปอีกต่อไป

เล่ม 2. พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระมหาชนกทรง

บำเพ็ญวิริยบารมีขั้นสูงสุด คือ ทรงพยายามว่ายน้ำข้าม

มหาสมุทรในคราวที่เดินเรือไปค้าขายแล้วเกิดอบปางทั้ง

ที่ไม่รู้ว่าจะถึงฝั่งได้เมื่อไหร่

เล่ม 3. พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นสุวรรณสามทรง

บำเพ็ญเมตตาบารมีขั้นสูงสุด คือ ทรงมีความรักและ

ปรารถนาดี ทั้งแก่คนที่เป็นมิตรและศัตรู

เล่ม 4. พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระเจ้าเนมิราช

ทรงบำเพ็ญอธิษฐานบารมีขั้นสูงสุด คือ ทรงแน่วแน่ มั่นคง

ไม่หวั่นไหว แม้ว่าจะถูกเชื้อเชิญให้เสวยสุขอยู่ในสวรรค์ ก็

ทรงปฏิเสธและกลับมาบำเพ็ญบารมีในโลกมนุษย์

เล่ม 5. พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นมโหสถบัณฑิต

ทรงบำเพ็ญปัญญาบารมีขั้นสูงสุด คือ ทรงใช้ปัญญาใน

การแก้ไขปัญหาต่างๆ ทำให้ตนเองและผู้อื่นพ้นจากความ

ยากลำบากไปได้

เล่ม 6. พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระภูริทัตทรง

บำเพ็ญศีลบารมีขั้นสูงสุด คือ แม้ว่าจะถูกเปียดเปียนให้

ทุกข์ทรมานปางตายก็ไม่ทรงทำร้ายผู้ทรมานนั้น เพื่อที่จะ

รักษาศีลให้บริสุทธิ์

เล่ม 7. พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นจันทกุมารทรง

บำเพ็ญขันติบารมีขั้นสูงสุด คือ อดทนไมโกรธตอบกัณฑ

หาละผู้ประทุษร้ายถึงขั้นให้พระองค์จะถูกประหารชีวิต

เล่ม 8. พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระนารทพรหม

ทรงบำเพ็ญอุเบกขาบารมีขั้นสูงสุด คือใช้ปัญญาที่ลึกซึ้ง

กลับพระทัยพระเจ้าอังคติราชให้มีความเห็นถูก เชื่อเรื่อง

กฎแห่งกรรม และการเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ

เล่ม 9. พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นวิธุรบัณฑิต ทรง

บำพ็ญสัจจบารมีขั้นสูงสุด คือ เมื่อตกลงรับคำจะไปกับ

ปุณณกยักษ์แล้ว แม้จะได้รับคำร้องขอให้คืนคำ ก็ไม่ยอม

เล่ม 10. ครั้งเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรนั้น

พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญทานบารมีขั้นสูงสุด คือทรง

บริจาคทรัพย์สิ่งของให้เป็นทาน ต่อมาทรงบริจาคช้าง

สำคัญคู่บารมี จนเป็นเหตุให้ถูกเนรเทศไปอยู่ป่า